สเวน โกรัน อีริคส์สัน เสียชีวิตในวัย 76 ปี

สเวน โกรัน อีริคส์สัน เสียชีวิตในวัย 76 ปี

ต้นปี 2024 อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ ได้ออกมาประกาศข่าวน่าตกใจ ว่าเขากำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และจะมีชีวิตต่อไปได้อีกเพียงหนึ่งปีเท่านั้น

ประวัติ สเวน โกรัน อีริคส์สัน

สเวน โกรัน อีริคส์สัน (Sven-Göran Eriksson) เป็นหนึ่งในโค้ชฟุตบอลที่มีชื่อเสียงระดับโลก เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1948 ที่เมืองทอร์สบี ประเทศสวีเดน เขาเป็นที่รู้จักในฐานะโค้ชที่มีประสบการณ์คุมทีมฟุตบอลทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ โดยเขาได้คุมทีมในหลายประเทศทั้งในยุโรปและเอเชีย

ประวัติการทำงาน

  • เริ่มต้นอาชีพโค้ช: สเวนเริ่มต้นอาชีพโค้ชในสวีเดนกับทีม Degerfors IF ในปี 1977 จากนั้นได้ย้ายไปคุมทีม IFK Göteborg ในปี 1979 ซึ่งเขาสามารถนำทีมคว้าแชมป์สวีดิช คัพ และยูฟ่าคัพในปี 1982
  • คุมทีมในอิตาลี: สเวนประสบความสำเร็จอย่างมากในอิตาลี โดยเขาคุมทีม AS Roma และ Fiorentina ก่อนที่จะย้ายไปคุมทีม Lazio ซึ่งเขาสามารถนำทีมคว้าแชมป์ Serie A ในปี 2000 นอกจากนี้ยังนำทีม Lazio คว้าแชมป์ Coppa Italia และ UEFA Super Cup
  • ทีมชาติอังกฤษ: สเวนเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษในปี 2001 และเป็นโค้ชชาวต่างชาติคนแรกที่คุมทีมชาติอังกฤษในยุคที่มีความคาดหวังสูง เขานำทีมชาติอังกฤษเข้าร่วมแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ อย่างฟุตบอลโลก 2002, 2006 และยูโร 2004 แม้ทีมชาติอังกฤษจะไม่สามารถคว้าแชมป์ในช่วงเวลานั้นได้ แต่สเวนก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
  • คุมทีมในประเทศอื่นๆ: หลังจากออกจากทีมชาติอังกฤษ สเวนได้คุมทีมชาติเม็กซิโก, ทีมชาติไอวอรีโคสต์ และคุมสโมสรหลายทีม เช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เลสเตอร์ ซิตี้, น็อตต์ส เคาน์ตี้ ในอังกฤษ และยังเคยคุมทีมในลีกจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ SIPG และ เซินเจิ้น FC
  • คุมทีมชาติฟิลิปปินส์: สเวนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโค้ชทีมชาติฟิลิปปินส์ในปี 2018 เพื่อคุมทีมในทัวร์นาเมนต์ AFC Asian Cup 2019

ผลงานและสไตล์การคุมทีม

สเวน โกรัน อีริคส์สัน มีชื่อเสียงจากการวางแผนการเล่นที่เน้นความสมดุลและการจัดการนักเตะที่ดี เขาเป็นโค้ชที่สามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมของทีมได้เป็นอย่างดี ทำให้เขาประสบความสำเร็จในหลายประเทศและหลายทีม

ชีวิตส่วนตัว

สเวน โกรัน อีริคส์สัน มักถูกสื่อมวลชนติดตามไม่เพียงแต่ในด้านการคุมทีมฟุตบอล แต่ยังรวมถึงชีวิตส่วนตัวของเขา โดยเฉพาะในช่วงที่เขาคุมทีมชาติอังกฤษ สื่อมวลชนให้ความสนใจในชีวิตส่วนตัวและความสัมพันธ์ของเขากับบุคคลต่างๆ อย่างไรก็ตาม สเวนยังคงเป็นหนึ่งในโค้ชที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการฟุตบอลระดับโลก